ปรับวิธี การทำงานยุคใหม่ ให้เข้ากับ New Normal
การทำงานยุคใหม่ ที่กำลังจะเปลี่ยนไปสำหรับการก้าวเข้าสู่ New Normal จะเปลี่ยนไปในทิศทางใด
ในอนาคตธุรกิจและพนักงานจะเริ่มปรับวิธี การทำงานยุคใหม่ หรือพฤติกรรมแบบใหม่ที่เรียกกันฮิดติดปากว่า New Normal เพราะอย่างที่ทราบกัน ตลอดระยะเวลา 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นปีนั้นทั่วโลกและประเทศไทยกำลังประสบกับการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ที่ทำให้มีผลกระทบทางสุขภาพ, สังคม, เศรษฐกิจ, ธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ รวมไปถึงธุรกิจการศึกษา
แต่ไม่ว่าจะได้รับผลกระทบรอบด้านอย่างไร ทั้งเศรษฐกิจและธุรกิจเองก็ยังต้องเดินหน้าไปต่อ ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักของธุรกิจก็คือ บุคลากรคุณภาพ จึงทำให้เราได้เห็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ หรือ New Normal ในการทำงานคือการ Work from home (การทำงานที่บ้าน) และอาจจะเป็นไปได้ว่าหลังจากวิกฤตโรคระบาดนี้จบลง พฤติกรรมของคนทำงานอาจจะมีรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยก็เป็นได้
แล้วพฤติกรรม New Normal ของคนทำงานและธุรกิจจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?
New Normal กับการทำงานที่ไหนก็ได้
สำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้หลายบริษัทส่วนใหญ่ก็มีความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน โดยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยการทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from home) เพื่อลดการระบาดและลดการติดเชื้อของโรคระหว่างการเดินทางมาทำงาน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเมื่อวิกฤตจบลง เจ้าของธุรกิจบางรายอาจประเมินลักษณะการทำงานภายในได้แล้วว่า การทำงานที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพอาจจะไม่จำเป็นต้องให้พนักงานมารวมกันอยู่ที่บริษัทเสมอไป โดยพนักงานเองสามารถใช้ 5 เคล็ดลับ work from home แบบมีประสิทธิภาพ ก็ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีในการทำงานได้ไม่ยาก และฝั่งธุรกิจก็อาจมีการปรับรูปแบบการทำงานใหม่ด้วยการให้พนักงานทำงานที่บ้านเป็นหลักหรือสามารถทำงานที่ไหนก็ได้มากกว่าการเดินทางเข้าบริษัท และมีการประเมินผลงานของพนักงานได้ง่ายขึ้นเพราะสามารถทำให้ธุรกิจสามารถเป็นผลงานของบุคลากรได้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งในด้านของพนักงานเองก็ต้อง Active และมีศักยภาพในการทำงานเพื่อให้ผลของการดำเนินงานคงประสิทธิภาพเท่าเดิม หรือเป็นไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีข้อดีของการ Work from home อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเลยคือ การประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางให้กับพนักงาน และลดปัญหาการเข้างานไม่ตรงเวลาให้กับบริษัทนั่นเอง
เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการทำงานมากกว่าเดิม
เมื่อความสามารถทางเทคโนโลยีมีมากขึ้น ซึ่งหลายธุรกิจมีการนำระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชันเข้ามาตอบสนองระบบการสื่อสารในการทำงาน เช่น การต้องเข้าประชุมภายในบริษัท การทำธุรกรรมออนไลน์ เพราะฉะนั้นความเร็วและแรงของอินเทอร์เน็ตจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา หรือธุรกิจที่เคยเป็นแบบออฟไลน์มาก่อนอาจจะกำลังต้องผันตัวในการใช้ออนไลน์มาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์มาช่วยในการขายมากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุค New Normal ด้วย
หนึ่งอาชีพอาจจะไม่เพียงพอ
เมื่อเราสามารถ Work from Home หรือทำงานที่ไหนก็ได้แล้ว ระยะเวลาชีวิตที่นอกเหนือจากเวลาทำงานคงมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งชัดเจนเลยว่าต้องมีเวลามากขึ้น 2 – 3 ชั่วโมงต่อวันจากการที่ไม่ต้องใช้เวลาบนท้องถนนขณะเดินทางไป – กลับที่ทำงานนั่นเอง บวกกับวิกฤตที่เกิดขึ้นและกำลังจะหมดไป ทำให้คนทำงานมีเวลาคิดได้ว่า การมีหนึ่งอาชีพที่เคยรู้สึกว่าเป็นรายได้หลักและค่อนข้างมั่นคงอาจจะเป็นเรื่องไม่แน่นอนอีกต่อไปแล้ว หลาย ๆ คนคงมองหาลู่ทางการหารายได้เสริมให้กับตัวเอง โดยอาชีพยอดฮิตสำหรับคนยุคใหม่ที่นิยมทำกันคือ แม่ค้าออนไลน์ สามารถทำได้โดยมีเพียงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์การเชื่อมต่อก็สร้างรายได้เสริมได้อีกทางเช่นกัน สำหรับใครที่มองลู่ทางการค้าขายทางออนไลน์ลองศึกษาข้อมูลถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขาย ช่องทางการขายและให้บริการกับลูกค้า อินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์การเชื่อมต่อหรืออุปกรณ์การสื่อสารมีคุณสมบัติมาพอต่อการตอบสนองกับทางผู้ซื้อหรือไม่ เช่น การขายสินค้าผ่านทางไลฟ์สด ก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์หรือสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อให้การไลฟ์ขายของมีความต่อเนื่องตลอดการไลฟ์สด รวมถึงการใช้สมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดระดับหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้านั่นเอง
แต่ไม่ว่าพฤติกรรมการทำงานจะกลายเป็น New Normal สำหรับคนทำงานมากน้อยเพียงใด ในเชิงธุรกิจเองก็ยังต้องมีการปรับตัวกับพฤติกรรมใหม่ที่ต้องเกิดขึ้นภายในองค์กรเช่นกัน การเตรียมความพร้อมและการปรับตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นการหาหรือนำเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่สามารถรองรับการดำเนินงาน รวมถึงการเลือกบริการจากผู้ให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการใช้งานและอุปกรณ์ที่รองรับสามารถเข้าถึงการทำงานได้หรือไม่ ซึ่งสามารถเลือกบริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจาก TOT ได้ทั้ง TOT fiber 2U Work@home ตอบโจทย์เหล่าคนทำงานในวันที่ต้องทำงานอยู่บ้าน และ TOT fiber 2U Gigabolt MAX สามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมไว้สำหรับอีกหนึ่งอาชีพเพื่อหารายได้เสริมในการเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
ซึ่งการเตรียมความพร้อมของพนักงานและธุรกิจก็เป็นจุดตั้งต้นไปสู่ New Normal ให้กับพฤติกรรมในการทำงานรูปแบบใหม่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ธุรกิจก็สามารถเดินต่อและยกระดับตัวธุรกิจให้ใหญ่และมีความก้าวหน้าขึ้น ส่วนพนักงานเองก็ยังสามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตทั้งงานประจำและการสร้างรายได้เสริมไปพร้อม ๆ กันได้