วิธีคิดบวกแบบง่ายๆ ที่ทำตามได้ทุกคน
- มองตัวเองทั้งในด้านดีและไม่ดี อันดับแรกเลยคือทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเอง พยายามทำความรู้จักกับตัวเองทั้งในด้านที่ดีและไม่ดี
- มองคนอื่นในแง่ดี เมื่อเราได้พิจารณาไปแล้วว่าตัวเองก็มีข้อเสีย แล้วไฉนคนอื่นจะไม่มีข้อเสียเลย ดังนั้นเราจึงต้องเป็นที่ยอมรับและทำความเข้าใจในความบกพร่องของคนอื่นให้ได้ด้วย เพราะแต่ละคนก็ย่อมมีข้อดีและข้อเสียมากน้อยแตกต่างกันไปทั้งนั้น
- อยู่กับสิ่งที่มี ปล่อยวางกับสิ่งที่จบไปแล้ว เรื่องเลวร้ายบางเรื่องที่เกิดขึ้น หากมันส่งผลเสียต่อคุณและคุณแก้ไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร บางครั้งก็ควรปล่อยวาง เพราะถือว่ามันได้ผ่านไปแล้ว และคุณไม่สามารถกลับไปแก้อะไรมันได้แล้ว
- หาเวลาพักสมอง เราเข้าใจว่าชีวิตคนเราย่อมมีปัญหาร้อยแปดพันเก้ามาให้ต้องแก้โจทย์กันตลอดอยู่แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำตามเราแนะนำในบทความนี้ก็คือการคิดบวก แต่สุดท้ายแล้วถ้าคุณไม่ไหวจริงๆ อยากให้ลองทิ้งทุกเรื่องไว้ข้างหลังสักระยะ แล้วหาเวลาไปพักผ่อน พักจิตใจ พักสมอง ดูบ้าง
- เมื่อเกิดวิกฤติ พยายามมองหาโอกาส ดังที่เราบอกไปว่าเมื่อคุณเจอกับอุปสรรค พยายามใส่ความคิดในแง่บวกลงไปทุกครั้ง การใส่ความคิดบวกลงไปด้วยนี่แหละ ที่เป็นแสงสว่างช่วยส่องทางให้เห็นปลายอุโมงค์แห่งโอกาส
- ยอมรับและเรียนรู้จากเรื่องผิดพลาดที่เกิดขึ้น ข้อนี้คล้ายๆ กับข้อที่ 3 เราอยากให้คุณลองมองว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบางครั้งมันก็เป็นข้อดี ที่ทำให้คุณได้นำมาเป็นบทเรียนให้คุณได้พัฒนาตัวเอง อีกทั้งมันยังเป็นภูมิคุ้มกันให้คุณกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
- อย่าสนใจคนคิดลบ หากเจอคนรอบตัวมีความคิดติดลบ หรือเจอเพื่อนในโลกโซเชียลที่ชอบพ่นแต่พลังลบออกมาตลอดทั้งวัน ทางเดียวที่เราอยากแนะนำให้ทำคืออย่าไปสนใจคนเหล่านั้น
- ให้กำลังใจตัวเอง บางครั้งการให้กำลังใจตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้วิธีอื่นๆ เพราะไม่มีใครที่เข้าใจตัวคุณได้ดีที่สุดไปมากกว่าตัวคุณเอง ลองหัดชมตัวเองดูบ้างเมื่อคุณทำสิ่งใดได้ประสบความสำเร็จ
- ขอบคุณให้บ่อยและปฏิเสธให้เป็น กล่าวขอบคุณคนรอบข้างให้บ่อย พลังบวกก็จะถูกส่งออกมาโดยอัตโนมัติ และเขาคนนั้นก็จะรับรู้ได้เอง รวมไปถึงการปฏิเสธด้วย หากมีสิ่งใดที่คุณต้องทำแล้วไม่สบายใจหรือไม่เป็นตัวของตัวเอง ก็จงอย่ากลัวที่จะปฏิเสธ